Protective Clothing การเลือกชุดป้องกันการปนเปื้อนในไลน์ผลิต ตามหลัก GHP

Protective Clothing

Protective Clothing – บทนำ

การเลือกชุดป้องกัน (Protective Clothing) สำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ โดยเฉพาะการผลิตอาหาร เนื่องจากความสะอาดและสุขอนามัยของพนักงาน (Hygiene) เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหาร ข้อกำหนดขั้นต่ำของชุดป้องกันในกระบวนการผลิตอาหาร (Protective Clothing) ระบุว่าพนักงานต้องสวมใส่เครื่องแต่งกายที่สะอาดและเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนจากเสื้อผ้าส่วนตัว โดยชุดป้องกันต้องไม่มีสิ่งสกปรกและไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย

ทั้งนี้ มาตรฐานด้านความปลอดภัยทางอาหาร เช่น GMP/GHP, HACCP, ISO 22000, FSSC 22000 และ BRC ได้กำหนดแนวทางที่เข้มงวดเกี่ยวกับการแต่งกายของพนักงาน รวมถึงการใช้หมวกคลุมผม หน้ากาก ผ้ากันเปื้อน และปลอกคลุมรองเท้าในโรงงานผลิตอาหาร เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากบุคลากรสู่ผลิตภัณฑ์

ดังนั้น การเลือกชุดป้องกันที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่ช่วยให้โรงงานปฏิบัติตามมาตรฐานสากล แต่ยังช่วยลดโอกาสการปนเปื้อน และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค บทความนี้จะกล่าวถึง 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่

  1. ประเภทของเนื้อผ้าที่เหมาะสม
  2. การออกแบบชุดให้เหมาะสมกับไลน์ผลิต
  3. แนวทางการทำความสะอาดและบำรุงรักษาชุด

รายละเอียดดังที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้

protective clothing - fabric

1. Protective Clothing Fabric Types – การเลือกเนื้อผ้าที่เหมาะสมให้แก่ชุดป้องกันในไลน์ผลิต

การเลือก เนื้อผ้าที่เหมาะสม เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดการปนเปื้อนในไลน์ผลิตอาหาร คุณสมบัติหลักที่ควรพิจารณา ได้แก่

1.1) ไม่ก่อให้เกิดฝุ่น (Lint-free) และป้องกันการสะสมของเชื้อโรค 1

  • ใช้ผ้า Polyester หรือ ESD Fabric (Polyester + Carbon) ที่มีคุณสมบัติป้องกันไฟฟ้าสถิต (Anti-static) ลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรค
  • หลีกเลี่ยงผ้าที่มี Cotton เพราะสามารถกักเก็บฝุ่นและความชื้นได้ง่าย

1.2) ระบายอากาศได้ดี ลดความชื้นสะสม

  • เลือกผ้าที่มี Anti-Bacteria Coating เพื่อลดความชื้นและป้องกันเชื้อรา
  • ช่วยให้พนักงานทำงานได้สบายขึ้น โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง

1.3) ทนทานต่อการซักและฆ่าเชื้อ

  • ต้องสามารถซักและอบฆ่าเชื้อที่อุณหภูมิสูง โดยไม่เสียรูปทรงหรือเสื่อมคุณสมบัติ
  • ตัวอย่างเนื้อผ้าที่เหมาะสม เช่น
    • Polyester (ทนร้อนสูงสุด 90°C) – แนะนำ
    • Nomex (200°C) – แพงเกินความจำเป็น
    • Teflon-Coated Fabric (250°C) – แพงเกินความจำเป็น
Fabric types

📌 ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของเนื้อผ้าสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร

ประเภทผ้าสะสมฝุ่น/เชื้อโรคระบายอากาศทนความร้อนความยับคำแนะนำ
Polyester 100%ต่ำปานกลาง90°Cยับยาก✅ เหมาะสมมาก
ESD Fabric (Poly + Carbon)ต่ำมากต่ำ80°Cยับยาก✅ เหมาะสำหรับคลีนรูม
Cotton 100%สูงสูง60°Cยับง่าย❌ ไม่แนะนำ
Poly-Cotton Blendปานกลางปานกลาง60°Cปานกลาง⚠ ใช้ได้แต่ไม่แนะนำ
Nylonต่ำต่ำ40°Cยับปานกลาง❌ ไม่แนะนำ
Nomex (Aramid Fiber)ต่ำมากต่ำ200°Cยับยาก❌ เกินความจำเป็น
Polypropylene (PP)ต่ำสูง120°Cไม่ยับ❌ ใช้สำหรับอุปกรณ์ใช้แล้วทิ้ง
Teflon-Coated Fabricต่ำมากต่ำ250°Cไม่ยับ❌ ไม่จำเป็นสำหรับอาหาร

2. Protective Clothing Designs – การออกแบบชุดป้องกันที่เหมาะสมกับไลน์ผลิต

ในกระบวนการผลิตอาหาร พื้นที่ปฏิบัติงานแบ่งออกเป็น โซนความเสี่ยงสูง (High-Risk Zone) และ โซนความเสี่ยงต่ำ (Low-Risk Zone)2 เพื่อควบคุมการปนเปื้อนและรักษาความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ชุดที่เลือกใช้ต้องเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของแต่ละโซนเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคและสิ่งปนเปื้อน

โซนความเสี่ยงสูง (High-Risk Zone)

📍 High-Risk Zone คือ พื้นที่ที่จัดการกับอาหารปรุงสุก (Ready-to-Eat, RTE) ซึ่งเสี่ยงต่อการปนเปื้อนข้าม (Cross-Contamination) จากบุคลากรหรือสิ่งแวดล้อม เนื่องจากอาหารในขั้นตอนนี้จะไม่ถูกทำให้ร้อนอีก จึงต้องใช้มาตรการป้องกันที่เข้มงวด

  • ชุดคลุมแบบเต็มตัว (Coverall)
    • ครอบคลุมร่างกายทั้งหมด ป้องกันการปนเปื้อนจากเสื้อผ้าส่วนตัว
    • ไม่มีช่องกระเป๋า เพื่อลดการสะสมของสิ่งสกปรก
    • ออกแบบให้พอดีตัว ป้องกันการสัมผัสอาหารโดยไม่ได้ตั้งใจ
  • หมวกคลุมศีรษะ (Head Hood or Head Cap)
    • ป้องกันเส้นผมปนเปื้อนลงในกระบวนการผลิต
    • หมวกคลุมศีรษะ สามารถเป็นหมวกที่ติดมาพร้อมชุด เช่น ชุดหมีมีหมวก (Coverall with Hood) หรือแยกต่างหากจากชุด เช่น Head Hood, Head Cap ขึ้นกับความเข้มงวดและความสะดวกในการใช้งาน
  • ถุงมือไนไตรล์ (Nitrile) หรือ PVC
    • ป้องกันแบคทีเรียจากมือ โดยควรถอดเปลี่ยนถุงมือทุกครั้งที่มีการหยิบจับวัตถุดิบใหม่ หรือเปลี่ยนไลน์ผลิต เพื่อป้องกันการปนเปื้อนข้าม (Cross-contamination)
  • รองเท้าบูทและปลอกคลุมรองเท้า
    • ใช้วัสดุที่ทำความสะอาดง่าย เช่น PVC หรือถุงมือยาง

โซนความเสี่ยงต่ำ (Low-Risk Zone)

📍 Low-Risk Zone คือ พื้นที่ที่จัดการกับวัตถุดิบหรืออาหารที่ต้องผ่านกระบวนการปรุงสุก ซึ่งแม้ว่าจะมีเชื้อจุลินทรีย์ปนเปื้อนได้ แต่ความเข้มงวดในการป้องกันน้อยกว่า High-Risk Zone อย่างไรก็ตาม ยังควรมีการสวมชุดป้องกันที่เหมาะสม ดังนี้

  • เสื้อคลุม (Lab Coat)
    • ควรมีความยาวพอเหมาะและไม่มีช่องกระเป๋า
    • ออกแบบให้พอดีตัว ป้องกันไม่ให้เสื้อหลวมเกินไปจนสัมผัสอาหาร
  • ปลอกแขน (Sleeve Cover) และรองเท้าหุ้มส้นกันลื่น
    • ช่วยลดโอกาสเกิดการปนเปื้อนจากร่างกายพนักงาน
  • รองเท้าหุ้มส้นแบบป้องกันการลื่นและน้ำมัน
    • ผลิตจากวัสดุที่ไม่ดูดซับน้ำ ทำความสะอาดง่าย
Protective Clothing - High risk vs Low risk zone

3. Protective Clothing Care – การดูแลรักษาชุดป้องกันการปนเปื้อน

การดูแลและทำความสะอาดชุดป้องกันการปนเปื้อน เป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาสุขอนามัยของไลน์ผลิตอาหาร แม้ว่าชุดจะถูกออกแบบมาเพื่อลดการปนเปื้อน แต่หากไม่มีการซักและบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคแทน ดังนั้นจึงควรปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้

3.1) ซักและอบฆ่าเชื้อทุกครั้งหลังใช้งาน

  • ควรซักที่อุณหภูมิ 60-90°C และอบฆ่าเชื้อที่มากกว่า 80°C เพื่อขจัดเชื้อจุลินทรีย์
  • ควรแยกซักระหว่างโซน High-Risk และ Low-Risk เพื่อป้องกันการปนเปื้อนข้าม (Cross-contamination)

3.2) ทำความสะอาดทุกวัน เพื่อป้องกันเชื้อโรคสะสม

  • ชุดที่ใช้แล้วควรได้รับการซักทุกวัน ไม่ควรใช้ซ้ำ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนสะสม

3.3) ดูแลชุดก่อนซัก เพื่อคงประสิทธิภาพการป้องกัน

  • ก่อนซัก ควรกลับด้าน ติดกระดุม รูดซิป และปิดตีนตุ๊กแก เพื่อป้องกันการเสียรูปทรงของชุด
  • หลีกเลี่ยงการซักรวมกับชุดที่มีคราบไขมันหนัก หรือใช้วิธีซักพิเศษหากจำเป็น
  • ควรแยกชุดที่ชำรุดเสียหายจากการใช้งานจากชุดปกติ เพราะอาจจะเสียหายเพิ่มเติมได้หากนำไปซัก

3.4) ตรวจสอบความเสียหาย และจัดเก็บในพื้นที่สะอาด

  • หากพบรอยขาดหรือเสื่อมสภาพ ควรแยกไว้เพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ แล้วเปลี่ยนชุดใหม่ทันที
  • เก็บในพื้นที่ปิดและสะอาด ป้องกันฝุ่นและเชื้อโรค
  • ควรใช้ตู้หรือภาชนะเก็บแยกระหว่างชุดสะอาดและชุดใช้แล้ว เพื่อป้องกันการปนเปื้อนข้าม (Cross-contamination)

สรุปการเลือกชุดป้องกัน (Protective Clothing) ในไลน์ผลิตอาหารตามหลัก GHP

กล่าวโดยสรุป การเลือกชุดป้องกันที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของกระบวนการผลิตอาหาร โดยมีหลักการง่าย ๆ เพียง 3 ข้อ ดังนี้

  1. เลือกเนื้อผ้าที่เหมาะสม (Suitable Fabric) เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค และรักษามาตรฐานความสะอาดสูงสุด
  2. ออกแบบชุดให้เหมาะสมกับโซนการผลิต (Suitable Design) เพื่อป้องกันการปนเปื้อนข้ามและรักษาความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
  3. ทำความสะอาดอย่างถูกต้อง (Suitable Care) ด้วยกระบวนการซักและอบฆ่าเชื้อมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าชุดพร้อมใช้งานอย่างปลอดภัยทุกวัน

การเลือกชุดและผ้าป้องกันการปนเปื้อนที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยป้องกันการปนเปื้อนข้าม แต่ยังเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่โรงงานผลิตอาหาร ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ส่งถึงมือผู้บริโภคนั้นสะอาดและปลอดภัย

ในประเทศไทย มีผู้ผลิตชุดป้องกันการปนเปื้อน (Protective Clothing) ที่ได้มาตรฐานหลายแห่ง หากต้องการคำปรึกษา ทาง HYGA พร้อมให้คำแนะนำ ควบคู่กับบริการหลักของเรา คือการทำความสะอาดชุดป้องกันในไลน์ผลิต

HYGA (ไฮก้า) โรงงานซักผ้าอุตสาหกรรมที่เชี่ยวชาญด้านชุดป้องกันการปนเปื้อนในไลน์ผลิตอาหาร เรามี กระบวนการซัก-อบฆ่าเชื้อมาตรฐานสูง ควบคุมการแยกโซน High-Risk และ Low-Risk อย่างเข้มงวด เพื่อให้ชุดของคุณสะอาด ปลอดภัย พร้อมใช้งานเสมอ

📌 มั่นใจในคุณภาพ ควบคุมความสะอาดอย่างมืออาชีพ
💬 ติดต่อเราเพื่อรับบริการซักชุดป้องกันการปนเปื้อนที่ได้มาตรฐานสูงสุด

ติดต่อเราได้ที่นี่ 🎯😊 หรือ โทร. 086-446-3974